ท่านพ่อสุ่น ธมฺมสุวณฺโณ
เดินทางลงเรือหนีไปบางกะสร้อย
นิมนต์ท่านพ่อสุ่นเป็นเจ้าอาวาส
เมื่อกลับมาเป็นเจ้าอาวาส
ฝรั่งเศสยิงไก่
ฝรั่งเศสลูบหัว
เสกใบมะขามเป็นต่อเป็นแตน
ฝรั่งเศสขโมยพระพุทธรูปต้มน้ำกิน
ชกฝรั่งเศสสลบ
ฝรั่งเศสเชิญไปรักษา
หมาท่านพ่อกัดกับหมาฝรั่งเศส
ไก่กระดูกดำ
หมาที่วัดไปกัดหมูชาวบ้าน
เป็นผู้มีอาคมทางเมตตายิ่งนัก
วาจาประกาศิต
เลือดรักชาติ
ยิงกระสุนโค้ง
พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จมาวัด
เกี่ยวพันกับหลวงพ่ออี๋
โดนเลื่อยล้อเกวียน
นายอุปถัมภ์ลูกศิษย์เอก
บุญบารมีสูงยิ่ง
เป็นผู้มีอำนาจยิ่งนัก
ลูกศิษย์ท่านพ่อไปชลบุรี
กรมหลวงชุมพรเคยมาหา
ลูกศิษย์เป็นเสือ
พิธีปลุกเสกตะกรุดของท่านพ่อสุ่น
พระตะกั่ว
ท่านพ่อสุ่นมรณะภาพ
   

 

 
 

ปากน้ำแหลมสิงห์ในอดีต :: โรงพักและตำรวจอำเภอแหลมสิงห์สมัยก่อน

 
 
ภาษาของคนปากน้ำแหลมสิงห์ โรงพักและตำรวจสมัยก่อน หน้าฝนที่แหลมสิงห์ อาชีพเลี้ยงเป็ด
อาหารหลักของเป็ด เล้าเป็ด หน้าหนาว เล่นว่าว ประเพณีการทำบุญกลางทุ่ง

ข้อมูลจาก ร.ต.ต.เฉลียว เจริญวัย อายุ ๗๕ ปี อดีตตำรวจเก่า ของ สภ.อ.แหลมสิงห์ เกษียณอายุ พ.ศ.๒๕๓๒ เล่าเกี่ยวกับโรงพัก แหลมสิงห์ว่า

“เดิมโรงพักอำเภอแหลมสิงห์ อยู่ที่ใกล้คุกขี้ไก่ เป็นอาคารชั้นเดียว มีไต้ถุน มีบันไดขึ้น ๒ ข้าง ต่อมาเมื่อถึงหน้าน้ำน้ำครองมาถึงด้านหลัง สถานีท่วมถึงเข่า ปีหนึ่ง ๑-๒ ครั้ง จึงต้องย้ายสถานีตำรวจ ตรงกับสมัยของ ร.ต.อ.คดี ศรีกระจ่าง ผู้บังคับกอง ซึ่งขณะนั้นกำลังจะเกษียนพอดี มี ร.ต.อ. อิ่น คชเสนี ย้ายมาแทน สมัยนั้นเปลี่ยนอำนาจการสอบสวนจากนายอำเภอมาเป็นของตำรวจ ตำรวจมี ๒๐ – ๓๐ คน”

“การเดินทางเข้าเมืองจันท์ ใช้เรือ รถยนต์ยังไม่มีถนนวิ่ง ไปลงท่าตลาดเก่า ตรอกแม่ผ่อง ใกล้ศาล มีตำรวจไปส่งหนังสือทุกวัน จนปี พ.ศ.๒๔๙๘ เปลี่ยนจากเรือพาย เป็นเรือยนต์”

“สมัยที่ย้ายโรงพักมาอยู่บริเวณที่อยู่ปัจจุบัน สมัยนั้น ผู้กองสมบัติ ประพันธ์ เป็นผู้บังคับกอง มี ร.ต.ท.มนัส จันททีโร เป็นร่องผู้กอง ที่ดินเป็นที่ของ ส.ต.อ.พนม เบี้ยแก้ว บริจาคที่ให้สร้างโรงพัก ๕ ไร่ และบริจาคให้สร้างอำเภอ ๕ ไร่ (ร.ต.ท.มนัส จันททีโร นั้น สมัยที่ผู้เรียงเรียงยังเป็นเด็ก มักได้ยินได้ฟังว่าจบจากโรงเรียนนายร้องตำรวจ ปราบปรามแก่ง มีความกล้าหาญมาก นักเลงแถวตลาด ซึ่งตลาดในสมัยนั้นอยู่ละแวกร้านเจ๊นี ยันไชจนถึงวิกฉายหนัง นักเลงแถวตลาดถูก หมวดมนัสใช้วิชายูโดเหวี่ยงจนหมดเขี้ยวเล็บ ทำให้ชื่อเสียงของมนัส ดังมาก รู้จักกันตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ น่าเสียดายที่ภายหลังประสบอุบัติเหตุทางรถ)

“ยุคที่ตำรวจแหลมสิงห์มีชื่อเสียงยุคหนึ่ง คือ สมัยที่ ร.ต.อ.เสรี ปัจจักพรรดิ์ เป็นผู้บังคับกอง แกตื่นตัวตลอดพร้อมที่จะรับแจ้ง พอมีคดีเกิดขึ้น กระโดดขึ้นรถเลย ลูกน้องบางทีตามไม่ทัน รูปร่างเล็ก ทำงานเก่ง สอบสวนก็เก่งเคยมีคดีฆ่ารัดคอคนแก่ ที่คลองน้ำเค็ม ผู้กองเสรี สืบจับจนได้ตัวคนร้ายมาฟ้องศาล สมัยนั้นชาวบ้านรักและเชื่อถือมากแล้วก็ไม่รับเงิน เคยมีคดีฆ่าอีกคดีหนึ่งที่บางกะไชย ฝ่ายผู้ต้องหาจะให้เงินโดยของให้ฟ้องเร็วไม่ใช่ให้ล้มคดีแกไม่รับไม่เจรจาด้วยตอนย้ายมาประจำแหลมสิงห์มีรถเก๋งมา ต่อมาเปลี่ยนเป็นรถจิ๊ป ตอนหลังขายหมด เอาเงินมาใช้ในการทำงาน เลี้ยงลูกน้องแล้วก็ตั้งด่านแทบทุกคืน ยันสว่าง ชาวบ้านของมาก

“คดีใหญ่คดีหนึ่ง สมัยนั้นผมทำงานอยู่เกาะเปริด มีเรือมาทอดสมอ และผิดสังเกตเพราะซื้อหมูเยอะ จึงรายงานขอกำลังเข้าตรวจเผอิญกองสมบัติ ได้ยินและร่วมเอากำลังเข้าค้นเรือ พบฝิ่นดิน ๕๐ กระสองๆละ ๕๐ ก.ก. เจ้าของเรือเงินใส่กระเป๋าเจมส์บอนด์มาให้ ผู้กองสมบัติไม่รับ ทำเรื่องส่งฟ้องศาล ปรากฏว่าเรือลำนี้จะลักลอบขนฝิ่น ปรากฏว่าเครื่องยนต์เสีย ต้องจอดรอซ่อมเครื่องยนต์ และถูกจับเสียก่อน เป็นเรือของผู้ใหญ่ในสมัยนั้น” (ร.ต.ต.เฉลียว เจริญวัย, สัมภาษณ์)

 
วัดปากน้ำแหลมสิงห์ ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
www.watpaknamlaemsing.org Copyright © 2011